บ้านส่วนใหญ่ในเขตกรุงเทพฯ เเละปริมณฑลมักจะติดตั้งปั๊มน้ำกันเเทบทุกหลัง เพราะประสบปัญหาน้ำไหลน้อย อาบทีมันไม่ถึงใจเอาซะเลย เเถมทำให้เสียเวลาอาบน้ำเป็นชั่วโมงอีก ซึ่งเจ้าปั๊มน้ำจะทำหน้าที่ส่งน้ำเข้าไปตามท่อน้ำเข้าบ้านเราด้วยเเรงดันสูง ทำให้น้ำไหลเเรง ยิ่งถ้าบ้าน 2 ช้นหรือ 3ชั้นที่มีปัญหาเรื่องน้ำไหลไปไม่ถึงก็ต้องหาปั๊มน้ำนี่เเหละมาช่วย
ใครกำลังจะหาซื้อปั๊มน้ำสักตัวไปติดที่บ้านวันนี้ลองมาทำความรู้จักเบื้องต้นกับวิธีการตรวจสอบกันดีกว่า จะได้ซื้อได้ถูกต้อง พอดีกับคนในบ้าน

สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป ปั๊มน้ำที่ใช้กันจะเป็นปั๊มน้ำแบบอัตโนมัติ เหมาะกับการใช้ในบ้าน เปิดก็อกปุ๊บปั๊มทำงานปั๊บ ขนาดของปั๊มอัตโนมัติมีตั้งเเต่ 100-400 วัตต์ ถ้า 100-150 วัตต์จะเหมาะกับบ้านที่อยู่กัน 2-3 คน แบ่งเป็น

1. ตรวจสอบสภาพทางกายภาพของปั๊มน้ำ

หลักการของปั๊มชนิดนี้คือให้น้ำไปเเทนที่อากาศ เพื่อใช้เเรงดันของอากาศในการปั๊มน้ำออกไปใช้งานยังส่วนต่างๆ ของบ้าน

ข้อดี : ดูเเลรักษาง่าย ทนทาน ให้เเรงดันน้ำสูงกว่าปั๊มชนิดเเรงดันคงที่เมื่อเทียบกำลังวัตต์ที่เท่ากัน
ข้อเสีย : ให้เเรงดันน้ำไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากต้องใช้เเรงดันของอากาศเพื่อดันน้ำออกไป ดังนั้นหากเปิดใช้พร้อมกันหลายๆ จุดอาจทำให้ความเเรงของนำเเต่ละจุดมีปริมาณไม่เท่ากัน

ข้อควรระวัง : วัสดุที่ใช้ทำปั๊มชนิดนี้ทำมาจากเหล็กเเละเคลือบกันสนิมภายใน เมื่อใช้ไปนานๆ อาจทำให้เกิสนิมบริเวณตัวถังได้ เพราะอยู่ไปนานๆ วัสดุเคลือบกันสนิมหมดอายุ ดังนั้นต้องวางในพื้นที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง

2. ปั๊มแบบเเรงดันคงที่หรือแบบอินเวอร์เตอร์

หลักการของปั๊มเเรงดันคงที่คือจะรักษาเเรงดันน้ำสม่ำเสมอเท่ากันตลอด เหมาะกับบ้านที่ใช้น้ำหลายจุด หรือใช้อุปกรณ์ที่ต้องการเเรงดันน้ำคงที่ (เครื่องทำน้ำอุ่น)

ข้อดี : มีการทำงานโดยใช้ตัวช่วยในการเพิ่มเเรงดัน อาทิ เเก๊สไนโตรเจน ทำให้มีรอบในการอัดอากาศคงที่ ส่งผลให้การจ่ายน้ำมีปริมาณสม่ำเสมอ
ข้อเสีย : มีราคาสูง เมื่อเกิดปัญหารั่วซึมของถังความดันจะไม่สามารถแก้ไขเติมก๊าซเองได้ ต้องถอดเปลี่ยน

รู้จักปั๊มกันไปแล้วทีนี้ก็เเล้วเเต่เราจะเลือกแล้วว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับบ้านของเรา ต่อมามาดูวิธีตรวจสอบเบื้องต้นเวลาติดตั้งใช้งาน ปั๊มที่บ้านจะได้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ตรวจสอบสภาพทางกายภาพของปั๊มน้ำ

เช็กส่วนเเรงตั้งเเต่เริ่มซื้อเลย ดูที่โครงสร้างถังก่อนเลย ซื้อมาเเล้วมีการบุบ เเตก รอยถลอก สีหลุดหรือเปล่า ส่วนถ้าโครงการติดตั้งให้ก็เเจ้งให้โครงการแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ได้

2. การต่อสายไฟเเละการติดตั้งสายกราวด์ถูกต้องหรือไม่

โดยทั่วไปปั๊มน้ำจะติดตั้งอยู่นอกบ้าน อย่างด้านหลังหรือข้างบ้าน ดังนั้นเต้ารับหรือปลั๊กที่ใช้กับปั๊มจึงควรเป็นเต้ารับแบบใช้ภายนอก คือกันน้ำได้จะได้ป้องหันไฟรั่ว เเละสายกราวด์ของปั๊มน้ำที่ให้มาปกติเเล้วจะเเยกออกมาจากสายปลั๊กตัวผู้ เราหรือทางโครงการต้องต่อสายกราวด์เข้ากับเต้ารับให้เรียบร้อย เเละไม่ควรต่อสายกราวด์เเยกลงดินต่างหาก ต้องต่อผ่านที่ตู้เมนเบรกเกอร์เพื่อไปลงยังหลักดินของตัวบ้านเท่านั้น

3. การเดินท่อประปาเข้าปั๊มน้ำถูกต้องหรือไม่

ปกติปั๊มน้ำจะต้องอยู่หลังถังน้ำดี หมายความว่าปั๊มต้องดึงน้ำจากถังน้ำดีเท่านั้น ห้ามดึงโดยตรงจากมิเตอร์น้ำ เพราะจะเป็นการไปดึงน้ำจากท่อเมนการประปา ทำให้เเรงดันน้ำของบ้านอื่นลดลง

4. การต่อระบบบายพาส (Bypass)

ปัจจุบันหลายโครงการจะต่อปั๊มน้ำเเละเดินระบบประปาแบบบายพาส ถ้าเกิดปั๊มน้ำเสียหรือไฟดับในตัวบ้านก็ยังสามารถใช้น้ำได้ เเต่ความเเรงของน้ำจะลดลงเท่ากับเเรงดันจากการประปาที่จ่ายมา ถึงจะไม่เเรงเเต่ยังใช้งานได้นะ 

5. ทดสอบการใช้งาน 

ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยลองมาใช้งานกัน ปิดใช้น้ำในบ้านทั้งหลังเเล้วสังเกตว่าปั๊มน้ำทำงานหรือไม่ หากปั๊มน้ำทำงานให้ตรวจสอบว่ามีส่วนใดของปั๊มหรือท่อน้ำดีในบ้านรั่วหรือไม่ ถ้ามีแก้ไขเเล้วลองเปิดใช้น้ำ สังเกตการทำงานของปั๊ม ปกติปั๊มน้ำแบบมีถังเเรงดันปั๊มจะอัดเเรงดันเข้าในท่อน้ำดีสักพักแล้วหยุด เมื่อเเรงดันในท่อน้ำดีลดลงก็จะทำงานใหม่ 

เเต่ถ้าเกิดปั๊มทำงานเเล้วตัดบ่อย หรือตลอดเวลา อาจมีปัญหาเรื่องอากาศเข้าไปในตัวปั๊ม ต้องไล่อากาศออก สามารถให้เจ้าหน้าที่โครงการมาแก้ไขให้ได้ หรือเราจะลองทำเองก็ได้

วิธีเลือกปั๊มน้ำเเละตรวจสอบเวลาติดตั้งเบื้องต้นกันไปแล้ว ถ้าใครซื้อบ้านจัดสรรในโครงการก็จะสบายหน่อย เพราะทางโครงการน่าจะติดตั้งให้ เเค่เราต้องเช็กให้เรียบร้อยเวลารับมอบโอนบ้าน หากเกิดปัญหาจะได้ตามแก้ไขได้ทัน ลองทำดูกันน้า