สาระน่ารู้
8 สไตล์การตกแต่งบ้านที่คุณอาจชอบ
ฮิต: 205
8 สไตล์การตกแต่งบ้านที่คุณอาจชอบ
อยากแต่งบ้านให้สวยและตรงกับสไตล์ที่ตัวเองชอบแต่ไม่รู้อยากได้แบบไหนดี เราได้รวบรวมสไตล์การแต่งบ้านมาให้ทุกคน มีให้เลือกหลายสไตล์ตามที่คุณชอบ พร้อมบอกเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการตกแต่งมาให้ทุกคนแล้ว
.
ไปดูกันเลยว่ามีสไตล์ไหนที่จะตรงกับคุณกันบ้าง
1. สไตล์มินิมอล (Minimalist Style)
.
สไตล์ที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความสวยงาม คอนเซปต์ของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือ “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” แนะนำให้เลือกเป็นไม้สีอ่อนจะทำให้บ้านดูอบอุ่น Smooth มากขึ้น ส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องให้เลือกเป็นสีแนวเอิร์ธโทน
.
Tips: เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น ของตกแต่งน้อยชิ้น เน้นเท่าที่จำเป็น เน้นไปที่การคุมโทนสีภาพรวมในห้องให้เป็นโทนสีอบอุ่น
2. สไตล์ (Scandinavian Style)
.
หรืออีกชื่อคือ นอร์ดิก (Nordic) การตกแต่งห้องสไตล์สแกนดิเนเวียนจะเป็นสไตล์ที่ใกล้เคียงกับมินิมอล แต่จะต่างกันตรงที่ของตกแต่งจะเยอะกว่า มีการใช้สีเยอะกว่า และนอร์ดิกจะเน้นโทนสีสว่างสีขาว ๆ เป็นหลัก รวมทั้งเน้นขนาดหน้าต่างใหญ่ๆ ให้มีแสงแดดเข้ามาในห้องเพื่อความปลอดโปร่ง เพิ่มความคอนทราสต์ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม ตกแต่งด้วยต้นไม้เล็ก พรมขนสัตว์ หมอนอิง ผ้าห่มให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองหนาว ก็จะช่วยทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น
.
Tips: เลือกใช้พื้นไม้สีอ่อนตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุมาจากธรรมชาติ
3. สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
.
แนวเรียบง่าย มีความหรูหรา ดูสบายตา จะกี่ปีก็ไม่ตกเทรนด์ ต้องแนวโมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะจะเป็นโต๊ะไม้ทาสีขาว ดำ หรือเทา เพิ่มไฟให้ดูสลัว ๆ ไม่สว่างและไม่มืดจนเกินไป มองหาของตกแต่งที่ดู Abstract พวกทรงเรขาคณิตต่าง ๆ ก็จะทำให้บ้านดูทันสมัย
.
Tips: กำหนดธีมหลักของสี เช่น ขาว ดำ เทา หรือแม่สี และของตกแต่งแนว Abstract หรือใช้ผนังที่เป็นหินอ่อนหรือวอลเปอร์ลายหินอ่อน
4. สไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style)
.
แต่งบ้านด้วยแนวคิดใกล้ชิดธรรมชาติ ให้บ้านเป็นโอเอซิสส่วนตัว ที่ช่วยหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอก โดยสีหลักของห้องจะต้องเป็นสีธรรมชาติแนวเอิร์ธโทน เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุทำมาจากธรรมชาติ เช่น โต๊ะไม้ เตียงนอนไม้ เก้าอี้ไม้ ตู้ไม้ และพื้นที่เปิดโล่งเพื่อรับแสงแดดและลมจากธรรมชาติ
.
Tips: เน้นไปที่สีโทนอุ่น และจะต้องมีสีเขียวเป็นหลักในห้อง ของตกแต่งจะต้องมีต้นไม้ภายในตัวบ้าน หรือผ้าลายใบไม้มาช่วยทำให้ห้องมีสีเขียวเพิ่มขึ้น ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้และหวาย
5. สไตล์วินเทจ (Vintage Style)
.
วินเทจเป็นสไตล์ที่โดนใจเหล่านักสะสม เพราะสามารถใช้ของสะสมของเราเนี่ยแหละเป็นของตกแต่งได้เลย โดยเฉพาะคนที่ชอบสะสมของเก่า ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจคือเฟอร์นิเจอร์พวกไม้เก่าไม่ขัดสี
.
Tips: เน้นโทนสีขาวและเอิร์ธโทน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า กรอบรูปต่าง ๆ เสริมลูกเล่นเป็นชั้นวางของสะสม
6. สไตล์โอเรียนทอล (Oriental Style)
.
สไตล์โอเรียนทอลจะเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกเอกลักษณ์ของประเทศไหนทางซีกโลกตะวันออกมาชูให้เด่น นำมาผสมผสานกับการตกแต่งบ้านแนวตะวันตก เพื่อให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น
.
Tips: สำหรับ Oriental สไตล์จีน เลือกใช้สีหลักเป็นสีทอง น้ำตาล ดำ แดง เพื่อให้ดูหรูหราและทันสมัย หรือสำหรับการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น เลือกสีน้ำตาล ขาว ดำ แต่อย่าลืมที่จะนำเอกลักษณ์ของประเทศนั้นให้เด่นด้วยเฟอนิเจอร์ต่างๆ
7. สไตล์ลอฟท์ (Loft Style)
.
สไตล์นี้เหมาะกับคนที่ชอบแนวดิบๆ สไตล์ลอฟท์จะเป็นการแต่งบ้านที่เน้นโชว์สีจริงของวัสดุ เช่น สีของปูนเปลือย ท่อเหล็กไม่ทาสี โต๊ะไม้สีดิบๆ เน้นความเรียล ไม่แต่งสีพื้นผิวมาก
.
Tips: เน้นสีดำ เทา ขาว น้ำตาล เฟอร์นิเจอร์แบบดิบ ๆ เช่น โต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้ม เก้าอี้สตูลโครงเหล็ก
8. สไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary Style)
.
สไตล์คอนเทมโพรารี เป็นการตกแต่งบ้านแบบร่วมสมัย โดยการผสมผสานระหว่าง บ้านแบบเก่า กับ ปัจจุบันเข้าด้วยกัน เปลี่ยนลุคบ้านให้ดูเรียบหรู แต่ก็ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีการจัดวางเลย์เอาต์ที่ชัดเจน ไม่สะเปะสะปะ เน้นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่และของที่ใช้งานได้จริงมากกว่าของตกแต่งเพื่อความสวยงาม
.
Tips: โทนสีที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีกลาง เช่น สีครีม, ขาว, น้ำตาล, เทา
อยากแต่งบ้านให้สวยและตรงกับสไตล์ที่ตัวเองชอบแต่ไม่รู้อยากได้แบบไหนดี เราได้รวบรวมสไตล์การแต่งบ้านมาให้ทุกคน มีให้เลือกหลายสไตล์ตามที่คุณชอบ พร้อมบอกเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการตกแต่งมาให้ทุกคนแล้ว
.
ไปดูกันเลยว่ามีสไตล์ไหนที่จะตรงกับคุณกันบ้าง
1. สไตล์มินิมอล (Minimalist Style)
.
สไตล์ที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความสวยงาม คอนเซปต์ของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือ “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” แนะนำให้เลือกเป็นไม้สีอ่อนจะทำให้บ้านดูอบอุ่น Smooth มากขึ้น ส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องให้เลือกเป็นสีแนวเอิร์ธโทน
.
Tips: เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น ของตกแต่งน้อยชิ้น เน้นเท่าที่จำเป็น เน้นไปที่การคุมโทนสีภาพรวมในห้องให้เป็นโทนสีอบอุ่น
2. สไตล์ (Scandinavian Style)
.
หรืออีกชื่อคือ นอร์ดิก (Nordic) การตกแต่งห้องสไตล์สแกนดิเนเวียนจะเป็นสไตล์ที่ใกล้เคียงกับมินิมอล แต่จะต่างกันตรงที่ของตกแต่งจะเยอะกว่า มีการใช้สีเยอะกว่า และนอร์ดิกจะเน้นโทนสีสว่างสีขาว ๆ เป็นหลัก รวมทั้งเน้นขนาดหน้าต่างใหญ่ๆ ให้มีแสงแดดเข้ามาในห้องเพื่อความปลอดโปร่ง เพิ่มความคอนทราสต์ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม ตกแต่งด้วยต้นไม้เล็ก พรมขนสัตว์ หมอนอิง ผ้าห่มให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองหนาว ก็จะช่วยทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น
.
Tips: เลือกใช้พื้นไม้สีอ่อนตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุมาจากธรรมชาติ
3. สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
.
แนวเรียบง่าย มีความหรูหรา ดูสบายตา จะกี่ปีก็ไม่ตกเทรนด์ ต้องแนวโมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะจะเป็นโต๊ะไม้ทาสีขาว ดำ หรือเทา เพิ่มไฟให้ดูสลัว ๆ ไม่สว่างและไม่มืดจนเกินไป มองหาของตกแต่งที่ดู Abstract พวกทรงเรขาคณิตต่าง ๆ ก็จะทำให้บ้านดูทันสมัย
.
Tips: กำหนดธีมหลักของสี เช่น ขาว ดำ เทา หรือแม่สี และของตกแต่งแนว Abstract หรือใช้ผนังที่เป็นหินอ่อนหรือวอลเปอร์ลายหินอ่อน
4. สไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style)
.
แต่งบ้านด้วยแนวคิดใกล้ชิดธรรมชาติ ให้บ้านเป็นโอเอซิสส่วนตัว ที่ช่วยหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอก โดยสีหลักของห้องจะต้องเป็นสีธรรมชาติแนวเอิร์ธโทน เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุทำมาจากธรรมชาติ เช่น โต๊ะไม้ เตียงนอนไม้ เก้าอี้ไม้ ตู้ไม้ และพื้นที่เปิดโล่งเพื่อรับแสงแดดและลมจากธรรมชาติ
.
Tips: เน้นไปที่สีโทนอุ่น และจะต้องมีสีเขียวเป็นหลักในห้อง ของตกแต่งจะต้องมีต้นไม้ภายในตัวบ้าน หรือผ้าลายใบไม้มาช่วยทำให้ห้องมีสีเขียวเพิ่มขึ้น ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้และหวาย
5. สไตล์วินเทจ (Vintage Style)
.
วินเทจเป็นสไตล์ที่โดนใจเหล่านักสะสม เพราะสามารถใช้ของสะสมของเราเนี่ยแหละเป็นของตกแต่งได้เลย โดยเฉพาะคนที่ชอบสะสมของเก่า ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจคือเฟอร์นิเจอร์พวกไม้เก่าไม่ขัดสี
.
Tips: เน้นโทนสีขาวและเอิร์ธโทน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า กรอบรูปต่าง ๆ เสริมลูกเล่นเป็นชั้นวางของสะสม
6. สไตล์โอเรียนทอล (Oriental Style)
.
สไตล์โอเรียนทอลจะเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกเอกลักษณ์ของประเทศไหนทางซีกโลกตะวันออกมาชูให้เด่น นำมาผสมผสานกับการตกแต่งบ้านแนวตะวันตก เพื่อให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น
.
Tips: สำหรับ Oriental สไตล์จีน เลือกใช้สีหลักเป็นสีทอง น้ำตาล ดำ แดง เพื่อให้ดูหรูหราและทันสมัย หรือสำหรับการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น เลือกสีน้ำตาล ขาว ดำ แต่อย่าลืมที่จะนำเอกลักษณ์ของประเทศนั้นให้เด่นด้วยเฟอนิเจอร์ต่างๆ
7. สไตล์ลอฟท์ (Loft Style)
.
สไตล์นี้เหมาะกับคนที่ชอบแนวดิบๆ สไตล์ลอฟท์จะเป็นการแต่งบ้านที่เน้นโชว์สีจริงของวัสดุ เช่น สีของปูนเปลือย ท่อเหล็กไม่ทาสี โต๊ะไม้สีดิบๆ เน้นความเรียล ไม่แต่งสีพื้นผิวมาก
.
Tips: เน้นสีดำ เทา ขาว น้ำตาล เฟอร์นิเจอร์แบบดิบ ๆ เช่น โต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้ม เก้าอี้สตูลโครงเหล็ก
8. สไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary Style)
.
สไตล์คอนเทมโพรารี เป็นการตกแต่งบ้านแบบร่วมสมัย โดยการผสมผสานระหว่าง บ้านแบบเก่า กับ ปัจจุบันเข้าด้วยกัน เปลี่ยนลุคบ้านให้ดูเรียบหรู แต่ก็ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีการจัดวางเลย์เอาต์ที่ชัดเจน ไม่สะเปะสะปะ เน้นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่และของที่ใช้งานได้จริงมากกว่าของตกแต่งเพื่อความสวยงาม
.
Tips: โทนสีที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีกลาง เช่น สีครีม, ขาว, น้ำตาล, เทา